ขาดความมั่นใจ คืนยิ้มสดใสด้วย 8 วิธีทำให้ฟันขาว

ปัญหาฟันเหลืองเป็นเรื่องที่พบได้ทั่วไป และทำให้หลายคนรู้สึกขาดความมั่นใจได้อย่างคาดไม่ถึง นอกจากนี้ ฟันที่มีคราบหรือเปลี่ยนสีไปจากเดิม ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพเท่านั้น แต่ยังอาจเป็นสัญญาณของการดูแลสุขภาพช่องปากที่ไม่ดี ซึ่งการเรียนรู้วิธีทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างถูกต้อง จะช่วยให้ฟันกลับมาดูขาวสะอาดได้ในระยะเวลาไม่นาน และไม่เพียงแค่ช่วยเรียกคืนความมั่นใจเท่านั้น แต่ยังช่วยดูแลสุขภาพช่องปากให้ดีและปลอดภัยในระยะยาว

ฟันเหลืองเกิดจากอะไร ?

สีฟันของคนเราจะมีความแตกต่างกันไปตามพันธุกรรม แต่โดยทั่วไปแล้วฟันควรมีสีขาวนวลถึงขาวอมเหลือง การที่ฟันเปลี่ยนเป็นสีเหลืองหรือหมองคล้ำมากขึ้นอาจเกิดจากหลายปัจจัย ได้แก่

  • การบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบ เช่น กาแฟ ชา ไวน์แดง หรือซอสมะเขือเทศ

  • การใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด ทั้งแบบสูบและแบบเคี้ยว โดยเฉพาะบุหรี่และบุหรี่ไฟฟ้า

  • การดูแลฟันที่ไม่ถูกต้อง รวมถึงการแปรงฟันไม่สะอาด

  • ผลกระทบจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยาต้านฮิสตามีน ยาสำหรับโรคความดันโลหิตสูง

  • ผลกระทบจากปัญหาสุขภาพบางอย่าง เช่น โรคตับ โรคที่เกี่ยวกับถุงน้ำดี และเคลือบฟันที่บางลงเพราะอายุมากขึ้น

  • การใช้วิธีขัดฟันหรือฟอกสีฟันบ่อยเกินไป ส่งผลให้เคลือบฟันได้รับความเสียหาย

  • การรับฟลูออไรด์ในปริมาณมากเกินไป ทั้งจากยาสีฟัน อาหาร และน้ำดื่ม

หากต้องการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสาเหตุที่ทำให้ฟันเหลืองหรือฟันเปลี่ยนสีอย่างเจาะลึก สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่บทความ 7 สาเหตุ ‘ฟันเปลี่ยนสี’ อยากคืนฟันขาว ฟอกสีฟัน Zoom คือคำตอบ

ผู้หญิงมีความกังวลเพราะไม่รู้ว่าฟันเหลืองเกิดจากอะไรและแก้อย่างไร

8 วิธีทำให้ฟันขาวขึ้นอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ

หลังจากทราบแล้วว่าฟันเหลืองเกิดจากอะไร เชื่อว่าคำถามถัดไปที่หลายคนอยากรู้ไม่แพ้กัน คือฟันเหลืองแก้ยังไงได้บ้าง ซึ่งผู้ที่ประสบปัญหาฟันเหลืองก็มีหลายระดับ โดยจะเลือกใช้วิธีไหนก็ขึ้นอยู่กับความรุนแรงและเรื้อรังของปัญหา ดังนั้น เพื่อเป็นแนวทางการแก้ปัญหาสีของฟันอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เรารวบรวม 8 วิธีทำให้ฟันขาวขึ้นโดยเริ่มจากวิธีที่ง่ายที่สุดไปจนถึงวิธีที่ต้องเข้าคลินิกทันตกรรมสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื้อรัง

1. การแปรงฟันอย่างถูกวิธี

วิธีนี้ถือเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และเป็นพื้นฐานสำคัญในการดูแลสุขภาพช่องปากและฟัน ควรแปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง โดยใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ เพื่อป้องกันฟันผุและขจัดคราบพลัคที่เป็นสาเหตุของฟันเหลือง

2. การใช้ไหมขัดฟัน

ไหมขัดฟันจะช่วยขจัดคราบและเศษอาหารที่ติดอยู่ระหว่างฟัน ซึ่งแปรงสีฟันไม่สามารถเข้าถึงได้ ทำให้ช่องปากสะอาดและลดความเสี่ยงการเกิดปัญหาฟันเหลืองได้ดีขึ้น

3. การใช้ยาสีฟันฟอกสีฟัน

ยาสีฟันฟอกสีฟันมักมีส่วนผสมของสารขัดฟันชนิดอ่อน เช่น ไบคาร์บอเนต มีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบบนผิวฟันและทำให้ฟันขาวขึ้นเล็กน้อยหากใช้อย่างสม่ำเสมอ ได้ผลดีสำหรับคราบที่เกิดจากการบริโภคอาหารหรือเครื่องดื่ม แต่ควรเลือกยาสีฟันที่ความละเอียดของสารขัดฟันไม่สูงเกินไป เพื่อป้องกันการสึกกร่อนของเคลือบฟัน

4. การใช้แถบฟอกสีฟัน (Whitening Strips)

วิธีทำให้ฟันขาวขึ้นวิธีถัดไป เป็นวิธีที่ซับซ้อนขึ้นเล็กน้อย อย่างการใช้แถบฟอกสีฟันที่มีส่วนประกอบของสารฟอกสีติดลงบนผิวฟัน จึงช่วยให้ฟันขาวขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการใช้บ่อยเกินไป เพื่อป้องกันการระคายเคืองของเหงือกและเคลือบฟัน

5. การใช้ชุดฟอกสีฟัน (Whitening Kits)

ชุดฟอกสีฟัน ประกอบด้วยถาดฟอกสีที่มีขนาดพอดีกับฟัน และสารฟอกสีที่มีความเข้มข้นต่ำ วิธีการอาจยุ่งยากกว่าแถบฟอกสีฟันเล็กน้อย โดยผู้ใช้ต้องนำสารฟอกสีใส่ถาดแล้วสวมเข้าไปในปาก แต่ข้อดีคือช่วยกระจายสารฟอกสีอย่างทั่วถึง จึงเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนกว่า

6. การฟอกสีฟันในคลินิกทันตกรรม

การฟอกสีฟันในคลินิกทันตกรรมอย่างการใช้เทคโนโลยี Zoom Whitening เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพสูง โดยใช้สารฟอกสีไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ร่วมกับแสง Zoom Light เพื่อกระตุ้นการทำงาน ทำให้ฟันขาวขึ้นได้ 4-8 เฉดทันทีหลังทำ และใช้เวลาเพียง 45 นาทีเท่านั้น

7. การทำวีเนียร์

วีเนียร์ เป็นแผ่นวัสดุบาง ๆ ที่ติดอยู่บนผิวหน้าของฟันเพื่อปรับปรุงรูปร่างและสีของฟันให้ได้เฉดสีและรูปร่างตามต้องการ มีทั้งที่ทำจากวัสดุเซรามิกและคอมโพสิต เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาฟันเหลือง ฟันบิ่น หรือฟันเรียงตัวไม่เป็นระเบียบเล็กน้อย

8. การครอบฟัน

การครอบฟัน เป็นการนำวัสดุเซรามิกหรือโลหะมาสวมทับลงไปบนฟันที่เสียหายหรือมีสีคล้ำ เพื่อปรับปรุงรูปร่างและสีของฟัน เหมาะสำหรับผู้ที่มีฟันผุ ฟันแตก หรือฟันที่มีปัญหาความสวยงาม โดยเฉพาะในกรณีที่ฟันมีการผุหรือบาดเจ็บอย่างรุนแรง ทำให้ฟันกลับมาดูดีและใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพอีกครั้ง

ารแปรงฟันอย่างถูกวิธี เป็นวิธีทำให้ฟันขาวที่สามารถทำได้ด้วยตัวเองทุกวัน

คำแนะนำในการป้องกันฟันเหลืองอย่างยั่งยืน

นอกจากวิธีทำให้ฟันขาวขึ้นแล้ว การดูแลช่องปากเพื่อป้องกันฟันเหลืองอย่างยั่งยืนก็เป็นสิ่งที่สำคัญเช่นกัน หากอยากให้ฟันขาวสะอาดในระยะยาว ต้องไม่ลืมทำตาม 6 แนวทางนี้อย่างสม่ำเสมอ

  • หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่มีสีเข้ม เพราะเป็นสาเหตุทำให้ฟันเกิดคราบ หากจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มสีเข้ม แนะนำให้ใช้หลอดดูดเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสของเครื่องดื่มกับฟันโดยตรง

  • ดื่มน้ำเปล่าทุกครั้งหลังรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม เพื่อล้างสิ่งสกปรกและคราบที่ติดอยู่บนฟัน ทำให้ช่องปากชุ่มชื้น ป้องกันการสะสมของคราบจุลินทรีย์

  • แปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ ขจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารที่สะสมอยู่ระหว่างซอกฟัน

  • รับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพฟัน โดยเฉพาะอาหารที่มีไฟเบอร์สูง เช่น แอปเปิล แคร์รอต หรือผักใบเขียว ส่วนอาหารที่วิตามินซีสูงอย่างส้มและสตรอว์เบอร์รี ก็มีส่วนช่วยขจัดคราบในช่องปากได้เช่นกัน

  • งดใช้ผลิตภัณฑ์ยาสูบทุกชนิด เพราะสารนิโคตินและทาร์ที่ติดอยู่กับฟันเป็นสาเหตุหลักของฟันเหลือง ทำให้เกิดกลิ่นปากและโรคเหงือก

  • ตรวจสุขภาพฟันกับทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อให้ตรวจพบปัญหาฟันผุ หรือโรคเหงือกตั้งแต่เนิ่น ๆ รวมถึงได้รับการขูดหินปูนและทำความสะอาดฟันอย่างละเอียด ลดการสะสมของคราบและทำให้ฟันขาวสะอาดขึ้น

ไม่ว่าจะมีปัญหาฟันเหลืองจากสาเหตุใด หากต้องการฟอกฟันขาวด้วยเทคโนโลยี Zoom Whitening จาก Philips สามารถเข้ารับคำปรึกษาและการรักษาจากทันตแพทย์ได้ที่ MITI Dental ดูแลทุกกระบวนการอย่างใกล้ชิด ช่วยให้ฟันขาวขึ้น 4-8 เฉดได้ภายใน 45 นาที ราคาเริ่มต้น 7,500 บาท อีกทั้งยังเป็น English Fluent Speaking Dental Clinic สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว รองรับลูกค้าได้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ


MITI Dental ตั้งอยู่กลางซอยอารีรักษ์ สุขุมวิท 50 ห่างจาก BTS อ่อนนุชเพียง 500 เมตร พร้อมที่จอดรถกว่า 10 คัน เปิดบริการทุกวัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายเข้าพบทันตแพทย์ได้ที่เบอร์  092-288-8061 หรือ LINE Official Account : @mitiwellness


ข้อมูลอ้างอิง: 

Previous
Previous

เดือยฟันคืออะไร ใช้แก้ปัญหาฟันเสียหายอย่างไร ?

Next
Next

อุดฟันอยู่ได้นานกี่ปี ? และวิธีดูแลให้อุดฟันอยู่ได้นานที่สุด