ฟอกสีฟันแล้วเสียวฟันเกิดจากอะไร ? พร้อมวิธีดูแลและป้องกัน
การฟอกสีฟัน เป็นหนึ่งในบริการทางทันตกรรมความงามที่ได้รับความนิยมสูง เพราะช่วยให้ฟันขาวสะอาด เพิ่มความมั่นใจในการยิ้ม แต่หลายคนกังวลเรื่องอาการเสียวฟันหลังการฟอกสีฟัน วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันว่าการฟอกสีฟันแล้วเกิดอาการเสียวฟันนั้นเป็นเรื่องปกติหรือไม่ มีสาเหตุมาจากอะไร และมีวิธีป้องกันอย่างไร รวมถึงการดูแลตัวเองที่ถูกต้องหลังการฟอกสีฟัน
1. การฟอกสีฟันคืออะไร และทำไมถึงทำให้เสียวฟัน
กลไกการฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันใช้สารเคมีที่มีฤทธิ์ในการทำลายคราบสีบนฟัน เช่น Hydrogen Peroxide หรือ Carbamide Peroxide สารเหล่านี้จะเจาะเข้าไปในชั้นเคลือบฟัน (Enamel) และชั้นเนื้อฟัน (Dentin) เพื่อกำจัดคราบสีที่ฝังลึก
สาเหตุของอาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟัน
เมื่อสารฟอกสีฟันเจาะเข้าไปในฟัน อาจทำให้เกิดภาวะต่าง ๆ ที่กระตุ้นให้มีอาการเสียวฟันได้ง่ายขึ้น เช่น
ชั้นเคลือบฟันบางลงชั่วคราว
ท่อเล็ก ๆ ในชั้นเนื้อฟัน (Dentinal Tubules) เปิดกว้างขึ้น
เส้นประสาทในฟันได้รับการกระตุ้นมากขึ้น
โดยสำหรับผู้ที่มีฟันบางอยู่แล้ว อาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟันอาจรุนแรงกว่าปกติ
2. อาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟันเป็นเรื่องปกติหรือไม่
อาการเสียวฟันหลังการฟอกสีฟันถือเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย และไม่ใช่เรื่องผิดปกติ อย่างไรก็ตามระดับความรุนแรงของอาการเสียวฟันอาจแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล โดยสิ่งสำคัญที่ต้องเข้าใจคืออาการเหล่านี้ไม่ถาวรและมักจะหายไปเองภายใน 1-3 วัน
ลักษณะอาการที่พบบ่อย
เสียวฟันเมื่อดื่มน้ำเย็นหรือน้ำร้อน
รู้สึกแสบหรือเจ็บเมื่อสัมผัสอากาศเย็น
ความรู้สึกไม่สบายเมื่อแปรงฟัน
อาการมักเริ่มในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรกหลังการฟอกสีฟัน
3. ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เสียวฟันมากขึ้น
ปัจจัยจากตัวผู้รับบริการ
มีฟันบางหรือชั้นเคลือบฟันบางอยู่แล้ว
เคยมีอาการเสียวฟันมาก่อน
มีโรคเหงือกหรือเหงือกอักเสบ
มีรอยแตกหรือรอยร้าวเล็ก ๆ บนฟัน
เคยอุดฟันหรือมีการรักษาทางทันตกรรมมาก่อน
ปัจจัยจากการรักษา
ความแรงของสารฟอกสีฟัน
ระยะเวลาในการฟอกสีฟัน
วิธีการฟอกสีฟัน
การฟอกสีฟันที่คลินิกจะใช้สารเข้มข้นสูงกว่า ให้ผลเร็วกว่า แต่อาจเสียวฟันมากกว่า
การฟอกสีฟันที่บ้านจะใช้สารอ่อนกว่า ใช้เวลานานกว่า แต่เสียวฟันน้อยกว่า
ความถี่ในการฟอกสีฟัน
การทำความเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้ทันตแพทย์สามารถปรับแผนการรักษาให้เหมาะสมกับแต่ละบุคคล
4. วิธีป้องกันอาการเสียวฟันก่อนฟอกสีฟัน
การเตรียมตัวก่อนฟอกสีฟัน
ตรวจสุขภาพช่องปาก - ให้ทันตแพทย์ตรวจสุขภาพช่องปาก ประเมินสภาพฟันและเหงือกก่อนฟอกสีฟันเพื่อตรวจหาปัญหาที่อาจเพิ่มอาการเสียวฟัน
รักษาปัญหาฟัน - อุดฟันผุ, รักษาเหงือกอักเสบ ให้เรียบร้อยก่อน เพื่อปิดช่องทางที่สารฟอกสีจะเข้าไปกระตุ้นเส้นประสาท
ใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน - เริ่มใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน 1-2 สัปดาห์ก่อนฟอกสีฟัน เพราะยาสีฟันประเภทนี้จะมีส่วนผสมของ Potassium Nitrate ที่ช่วยปิดท่อเล็ก ๆ ในฟัน
หลีกเลี่ยงอาหารเปรี้ยวจัด - ลดการกินหรือดื่มสิ่งที่ทำให้ชั้นเคลือบฟันบาง เช่น อาหารหรือเครื่องดื่มและผลไม้ที่มีฤทธิ์เป็นกรด เช่น ส้ม มะนาว เครื่องดื่มอัดลม และไวน์
5. วิธีดูแลตัวเองหลังฟอกสีฟัน
วิธีดูแลในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก
ช่วงนี้ฟันอยู่ในสภาพบอบบางและไวต่อสิ่งกระตุ้นมากที่สุด ควรดูแลดังนี้
หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มสีเข้ม เช่น กาแฟ ชา ไวน์แดง น้ำอัดลมที่มีสี แกงต่าง ๆ ซอสมะเขือเทศ ขนมและผลไม้สีเข้ม
หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสชาติและอุณหภูมิจัด อย่างอาหารเปรี้ยวจัด และเครื่องดื่มเย็นจัด ร้อนจัด
การดูแลช่องปาก โดยใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟันที่มี Potassium Nitrate แปรงฟันเบา ๆ โดยใช้แปรงขนนุ่ม และบ้วนปากด้วยน้ำเกลือหรือน้ำยาบ้วนปากไม่มีแอลกอฮอล์
การบรรเทาอาการเสียวฟัน ทำได้โดยการทาเจลลดอาการเสียวฟันตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ และดื่มน้ำผ่านหลอด
สิ่งสำคัญ : หากอาการเสียวฟันรุนแรงมากหรือไม่หายภายใน 3-5 วัน ควรปรึกษาทันตแพทย์ทันที
การดูแลระยะยาว
ใช้ยาสีฟันฟลูออไรด์เพื่อเสริมสร้างชั้นเคลือบฟันให้แข็งแรง
หลีกเลี่ยงการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มที่ทำให้เกิดคราบ
ตรวจฟันเป็นประจำทุก 6 เดือน
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการฟอกสีฟันและอาการเสียวฟัน
1. ฟอกสีฟันแล้วเสียวฟันนานแค่ไหน ?
โดยปกติอาการเสียวฟันจะเริ่มในช่วง 24-48 ชั่วโมงแรก และค่อย ๆ ลดลงภายใน 1-3 วัน หากเสียวฟันนานกว่า 5 วัน ควรพบทันตแพทย์
2. ฟอกสีฟันทำให้ฟันบางจริงไหม ?
ไม่จริง การฟอกสีฟันไม่ทำให้ฟันบางถาวร แต่อาจทำให้ชั้นเคลือบฟันบางลงชั่วคราวในระหว่างกระบวนการ ซึ่งชั้นเคลือบฟันจะกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมได้ภายใน 1-2 วัน
3. คนที่มีฟันบางสามารถฟอกสีฟันได้ไหม ?
สามารถฟอกสีฟันได้แม้มีฟันบาง แต่ควรปรึกษาทันตแพทย์เพื่อเลือกวิธีและสารที่เหมาะสม อาจต้องใช้สารที่มีความเข้มข้นต่ำกว่า หรือฟอกแบบค่อยเป็นค่อยไป
4. มีวิธีลดอาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟันไหม ?
มีหลายวิธี เช่น ใช้ยาสีฟันลดอาการเสียวฟัน ทาเจลพิเศษ หลีกเลี่ยงอาหารเย็นร้อนจัด และบ้วนปากด้วยน้ำเกลือ
5. ควรฟอกสีฟันบ่อยแค่ไหน ?
ขึ้นอยู่กับวิธีการฟอก การฟอกที่คลินิกควรทำทุก 1-2 ปี ส่วนการฟอกที่บ้านอาจทำได้บ่อยกว่า แต่ควรปรึกษาทันตแพทย์
6. ฟอกสีฟันที่คลินิกต่างจากที่บ้านอย่างไร ?
ที่คลินิกใช้สารเข้มข้นสูงกว่า ให้ผลเร็วกว่า แต่อาจเสียวฟันมากกว่า ส่วนที่บ้านใช้สารอ่อนกว่า ใช้เวลานานกว่า แต่เสียวฟันน้อยกว่า
การฟอกสีฟันอาจทำให้เสียวฟันได้ ซึ่งเป็นผลข้างเคียงที่พบได้บ่อย แต่ไม่ส่งผลอย่างถาวร โดยการเลือกทันตแพทย์ที่มีประสบการณ์ และการใช้เทคโนโลยีในการฟอกฟันขาวที่เหมาะสมจะช่วยลดอาการเสียวฟันหลังฟอกสีฟันได้ ที่ MITI Dental พร้อมให้บริการฟอกฟันขาวที่ปลอดภัยด้วยเทคโนโลยี Zoom ที่ช่วยลดอาการเสียวฟันและดูแลโดยทันตแพทย์ ท่ามกลางบรรยากาศสบาย ๆ ของธรรมชาติ สร้างประสบการณ์การทำฟันที่ผ่อนคลายกว่าที่เคย
MITI Dental คลินิกทันตกรรมย่านอ่อนนุช ตั้งอยู่กลางซอยอารีรักษ์ สุขุมวิท 50 ห่างจาก BTS อ่อนนุชเพียง 500 เมตร พร้อมที่จอดรถกว่า 10 คัน เปิดบริการทุกวัน นอกจากนี้ คลินิกทันตกรรมของเรายังเป็น English Fluent Speaking Dental Clinic ซึ่งทันตแพทย์และเจ้าหน้าที่สามารถสื่อสารภาษาอังกฤษได้อย่างคล่องแคล่ว สามารถรองรับลูกค้าได้ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริการฟอกฟันขาวและนัดหมายเข้าพบทันตแพทย์ได้ที่เบอร์ 092-288-8061 หรือ LINE Official Account : @mitiwellness
ข้อมูลอ้างอิง:
Teeth whitening. สืบค้นเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2568 จาก https://www.nhs.uk/tests-and-treatments/teeth-whitening/
