ปวดเหงือกด้านในสุดอ้าปากไม่ได้ ปัญหาช่องปากที่ไม่ควรมองข้าม

อาการปวดเหงือกด้านในสุดเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ โดยเฉพาะเมื่อเกิดขึ้นแบบฉับพลัน ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันเป็นเรื่องยากลำบาก ทั้งการเคี้ยวอาหาร การพูดคุย หรือแม้แต่การอ้าปาก บทความนี้จะพามาทำความเข้าใจถึงสาเหตุของอาการปวดเหงือกด้านในสุด พร้อมแนวทางดูแลเบื้องต้น และวิธีรักษาที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันปัญหาลุกลามในระยะยาว

ผู้หญิงมีอาการปวดเหงือกด้านในสุดอ้าปากไม่ได้

สาเหตุหลักของอาการปวดเหงือกด้านในสุด

อาการปวดเหงือกด้านในสุดอาจเกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ที่พบบ่อยที่สุดมีดังนี้

1. ฟันคุดกำลังขึ้นหรือขึ้นผิดตำแหน่ง

ฟันคุด โดยเฉพาะฟันกรามซี่ที่สามหรือฟันกรามซี่สุดท้าย มักเป็นสาเหตุหลักของอาการปวดเหงือกด้านในสุด โดยเฉพาะบริเวณขากรรไกรล่าง เนื่องจากฟันเหล่านี้มักขึ้นในช่วงอายุ 17-25 ปี และมักพบปัญหาเนื่องจากไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับฟันที่กำลังจะขึ้น

อาการที่พบ

  • ปวดตุบ ๆ บริเวณเหงือกด้านในสุด โดยเฉพาะบริเวณขากรรไกรล่าง

  • มีเศษอาหารติดใต้เหงือกบริเวณฟันคุด

  • เหงือกบริเวณฟันคุดบวมแดง อาจมีหนองร่วมด้วย

  • อ้าปากลำบาก หรือในกรณีรุนแรงอาจอ้าปากไม่ได้เลย

วิธีแก้ไข

การรักษาที่ได้ผลดีที่สุดคือ การผ่าฟันคุดออก โดยเฉพาะในกรณีที่ฟันคุดขึ้นผิดตำแหน่ง เพื่อป้องกันการอักเสบซ้ำและปัญหาอื่น ๆ ที่อาจตามมา เช่น ฟันซี่ข้างเคียงผุ หรือเกิดถุงน้ำในกระดูกขากรรไกร

2. เหงือกอักเสบจากคราบหินปูน

คราบหินปูนที่สะสมเป็นเวลานานบริเวณโคนฟันและใต้เหงือก เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เหงือกอักเสบ โดยเฉพาะบริเวณด้านในสุดของช่องปากที่การแปรงฟันทำได้ยาก

อาการที่พบ

  • เหงือกบวมแดง อ่อนนุ่ม

  • มีเลือดออกง่ายเมื่อแปรงฟันหรือใช้ไหมขัดฟัน

  • มีกลิ่นปาก

  • อาจมีอาการปวดเมื่อเคี้ยวอาหาร

วิธีแก้ไข

การรักษาที่สำคัญคือ การขูดหินปูนและทำความสะอาดรากฟันโดยทันตแพทย์ พร้อมกับดูแลสุขภาพช่องปากด้วยการแปรงฟันและใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ

3. ฟันผุลุกลามถึงโพรงประสาท

เมื่อฟันผุลุกลามจนถึงโพรงประสาทฟัน จะทำให้เกิดการอักเสบและติดเชื้อที่ปลายรากฟัน ซึ่งอาจแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อเหงือกและกระดูกขากรรไกรได้

อาการที่พบ

  • ปวดฟันรุนแรง อาจปวดจี๊ดขึ้นไปถึงศีรษะ

  • ปวดตุบ ๆ ตลอดเวลา และปวดมากขึ้นเมื่อนอนราบหรือเคี้ยวอาหาร

  • เหงือกบริเวณรากฟันที่อักเสบอาจบวม มีหนอง

วิธีแก้ไข

จำเป็นต้องรักษารากฟันเพื่อกำจัดเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อและเชื้อแบคทีเรียในโพรงประสาทฟัน หรือในกรณีที่ไม่สามารถรักษาได้ อาจจำเป็นต้องถอนฟันออก

4. การติดเชื้อจากแบคทีเรีย (ฝีหนองในช่องปาก)

การติดเชื้อรุนแรงในช่องปากอาจนำไปสู่การเกิดฝีหนอง ซึ่งเป็นการสะสมของหนองที่เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย มักพบในบริเวณที่มีฟันผุลุกลาม หรือหลังจากการถอนฟันที่มีการติดเชื้อ

อาการที่พบ

  • ปวดเหงือกรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อกดบริเวณที่มีการอักเสบ

  • มีหนองไหลออกมาจากเหงือก

  • มีไข้สูง หนาวสั่น อ่อนเพลีย

  • อ้าปากไม่ได้หรือลำบาก

วิธีแก้ไข

สำหรับฝีขนาดใหญ่จำเป็นต้องพบทันตแพทย์เพื่อระบายหนองออก และรับยาปฏิชีวนะเพื่อควบคุมการติดเชื้อ

ทันตแพทย์แจ้งคนไข้ที่มีอาการเจ็บเหงือกด้านในสุดล่างเกิดจากฟันคุด

ปวดเหงือกด้านในสุด อ้าปากไม่ได้ : สัญญาณอันตรายที่ควรระวัง

อาการปวดเหงือกด้านในสุดหรือเจ็บเหงือกด้านในสุดล่างจนอ้าปากไม่ได้ เป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกถึงปัญหาร้ายแรงที่ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีอาการปวดร้าวขึ้นศีรษะหรือใบหน้าร่วมด้วย

สาเหตุที่พบบ่อย

ฟันคุดหรือฟันกรามขึ้นผิดทิศทาง

ฟันกรามซี่ในสุดที่เริ่มขึ้นใหม่มักไม่มีพื้นที่เพียงพอในช่องปาก ทำให้ฟันขึ้นเอียงหรือเบียดฟันซี่ข้างเคียง จนเกิดแรงกดและการอักเสบบริเวณเหงือก ส่งผลให้เหงือกบวม เจ็บ ปวดตุบ ๆ และในบางรายอาจปวดมากจนอ้าปากแทบไม่ได้

การสะสมของแบคทีเรียจากการทำความสะอาดไม่ทั่วถึง

บริเวณด้านในสุดของปากแปรงสีฟันมักเข้าถึงยาก ทำให้เศษอาหารและแบคทีเรียสะสมได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่อมีฟันขึ้นเพียงบางส่วน เศษอาหารที่ติดใต้เหงือกอาจกลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อ ทำให้เหงือกบวมแดง อักเสบ และเจ็บได้ หากละเลย อาการอาจลุกลามจนต้องรักษาด้วยการผ่าตัดหรือรักษารากฟันโดยด่วน

คำแนะนำ : หากมีไข้สูง บวมที่ใบหน้าหรือมีหนอง ควรรีบพบทันตแพทย์ทันที เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเร่งด่วน

วิธีบรรเทาอาการเจ็บเหงือกด้านในสุดเบื้องต้น

หากอาการยังไม่รุนแรง สามารถใช้วิธีเหล่านี้เพื่อบรรเทาอาการชั่วคราวก่อนพบแพทย์ ดังนี้

1. การใช้น้ำเกลืออุ่นกลั้วปาก

น้ำเกลืออุ่นช่วยลดการอักเสบและฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี วิธีทำคือ

  • ผสมเกลือ 1/2 ช้อนชากับน้ำอุ่น 1 แก้ว (250 มิลลิลิตร)

  • กลั้วปากประมาณ 30 วินาที แล้วบ้วนทิ้ง

  • ทำซ้ำทุก 2-3 ชั่วโมง หรือหลังอาหารทุกมื้อ

2. การประคบเย็นและประคบอุ่น

  • การประคบเย็น : ใช้ถุงน้ำแข็งห่อด้วยผ้าสะอาด ประคบบริเวณที่ปวดเป็นเวลา 15-20 นาที ทุก 2-3 ชั่วโมง ช่วยลดอาการบวมและชาได้ดีใน 1-2 วันแรกที่มีอาการ

  • การประคบอุ่น : หลังจาก 2 วันแรก สามารถใช้การประคบอุ่นเพื่อช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดและเร่งให้แผลหายเร็วขึ้น โดยใช้ผ้าชุบน้ำอุ่น ประคบบริเวณที่ปวดเป็นเวลา 15-20 นาที

3. การเลือกรับประทานอาหารอ่อนและหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง

  • หลีกเลี่ยงอาหารแข็ง กรอบ หรือต้องเคี้ยวมาก

  • เลือกรับประทานอาหารอ่อนนุ่ม เช่น โจ๊ก ซุป ไข่ตุ๋น

  • หลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิร้อนหรือเย็นจัด

  • งดเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์และงดสูบบุหรี่ เนื่องจากอาจทำให้อาการหายช้าลง

4. ยาบรรเทาอาการปวดและยาฆ่าเชื้อ

ยาพาราเซตามอลหรือไอบูโพรเฟนช่วยบรรเทาอาการปวดได้ชั่วคราว (ควรปรึกษาแพทย์หรือเภสัชกรก่อนใช้ยา โดยเฉพาะหากมีโรคประจำตัว)

เมื่อไรควรพบทันตแพทย์โดยเร่งด่วน

อาการต่อไปนี้อาจเป็นสัญญาณว่าคุณควรพบทันตแพทย์โดยเร่งด่วน

  • อ้าปากไม่ได้หรืออ้าปากได้น้อยมาก

  • มีไข้สูงร่วมกับอาการปวดเหงือก

  • มีอาการบวมที่ใบหน้าหรือคอ

  • หายใจหรือกลืนลำบาก

  • มีหนองไหลออกมาจากเหงือก

  • อาการปวดรุนแรงจนรบกวนการนอนหลับ

  • ยาแก้ปวดทั่วไปไม่สามารถบรรเทาอาการได้

หากคุณกำลังเผชิญกับอาการปวดเหงือกด้านในสุดจนอ้าปากไม่ได้ หรือเจ็บจนใช้ชีวิตลำบาก อย่าปล่อยไว้จนอาการลุกลาม เพราะอาจเป็นสัญญาณของฟันคุดหรือปัญหาสุขภาพช่องปากที่ต้องได้รับการดูแล ขอแนะนำให้เข้ามาตรวจสุขภาพช่องปากที่ MITI Dental คลินิกทันตกรรมที่ดูแลคุณด้วยทีมทันตแพทย์มากประสบการณ์ พร้อมเครื่องมือที่ทันสมัย และการรักษาที่ปลอดภัย บริการที่มั่นใจได้ในทุกขั้นตอน พร้อมสร้างบรรยากาศสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติให้คุณรู้สึกผ่อนคลายทุกครั้งที่เข้ามารับบริการ


MITI Dental คลินิกหมอฟันย่านอ่อนนุช ตั้งอยู่กลางซอยอารีรักษ์ สุขุมวิท 50 ห่างจาก BTS อ่อนนุชเพียง 500 เมตร พร้อมที่จอดรถกว่า 10 คัน เปิดบริการทุกวัน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและนัดหมายเข้าพบทันตแพทย์ได้ที่เบอร์ 092-288-8061 หรือ LINE Official Account : @mitiwellness


ข้อมูลอ้างอิง: 

Next
Next

5 วิธีดูแลฟันสำหรับเด็ก เตรียมตัวให้พร้อมก่อนฟันแท้ขึ้น