5 วิธีดูแลฟันสำหรับเด็ก เตรียมตัวให้พร้อมก่อนฟันแท้ขึ้น
การมีฟันที่เรียงตัวเป็นระเบียบไม่เพียงแต่ช่วยเรื่องการบดเคี้ยวและการออกเสียง แต่ยังสร้างความมั่นใจให้แก่ลูกตั้งแต่วัยเด็ก การดูแลฟันลูกตั้งแต่เริ่มมีฟันน้ำนมซี่แรกจนถึงฟันแท้ขึ้นเต็มที่ จึงเป็นการลงทุนในสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาว และช่วยป้องกันปัญหาฟันผุ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อฟันแท้เริ่มขึ้นในช่วงวัยเด็ก หากคุณมีลูกในช่วงวัย 6 ปีขึ้นไป มาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการขึ้นของฟันแท้ การหลุดของฟันน้ำนม และวิธีการดูแลฟันลูกให้สวยตั้งแต่ Day One กัน
ฟันแท้ขึ้นกี่ขวบ ฟันน้ำนมหลุดตอนอายุเท่าไร ?
คำถาม 2 ข้อข้างต้น ถือเป็นคำถามยอดนิยมสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่เลยก็ว่าได้ เพราะการดูแลสุขภาพช่องปากและฟันให้ลูกรักตั้งแต่อายุยังน้อย ย่อมช่วยให้ลูกมีสุขภาพฟันที่แข็งแรง โดยฟันน้ำนม หรือฟันแรก คือฟันชุดแรกที่ขึ้นมาและจะค่อย ๆ หลุดออกเพื่อให้ฟันแท้ขึ้นมาทดแทน ส่วนฟันแท้ คือฟันถาวรที่ขึ้นมาแทนที่ฟันน้ำนมเมื่อเด็กเติบโตขึ้นและจะอยู่กับเด็กไปตลอดชีวิต
ฟันน้ำนม จะเริ่มขึ้นเมื่อเด็กอายุประมาณ 6 เดือน โดยจะขึ้นครบทั้ง 20 ซี่ในช่วงอายุ 2-3 ปี มีหน้าที่ช่วยในเรื่องการบดเคี้ยวอาหาร การพูด และการพัฒนาการในวัยเด็ก และฟันน้ำนมจะเริ่มหลุดเมื่อเด็กมีอายุประมาณ 6 ปี แล้วทยอยหลุดจนหมดเพื่อให้ฟันแท้ขึ้นมาแทนที่
ส่วนฟันแท้ จะเริ่มขึ้นหลังฟันน้ำนมหลุด และขึ้นครบ 32 ซี่ในช่วงวัยรุ่นตอนต้น หรืออายุประมาณ 17-21 ปี มีลักษณะใหญ่และแข็งแรงกว่า ซึ่งจะช่วยในการบดเคี้ยวอาหารและการออกเสียงในระยะยาว
วิธีสังเกตความแตกต่างระหว่างฟันน้ำนมและฟันแท้
เมื่อรู้แล้วว่าฟันน้ำนมซี่แรกของลูกจะเริ่มหลุดตอนอายุเท่าไรแล้วฟันแท้จะเริ่มขึ้นตอนกี่ขวบ แต่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่ยังสงสัย คือความแตกต่างระหว่างฟันน้ำนมและฟันแท้ ซึ่งหากมองผิวเผิน
มักมีความคล้ายคลึงกันจนหลายคนไม่สามารถแยกออกได้ด้วยตาเปล่า ซึ่งความแตกต่างระหว่างฟันน้ำนมและฟันแท้ สามารถสังเกตเห็นได้ผ่าน 3 หลักเกณฑ์ ดังนี้
| ลักษณะของฟัน | ฟันน้ำนม | ฟันแท้ |
|---|---|---|
| ขนาดของฟัน | ขนาดเล็กกว่าฟันแท้ ราคาฟันเล็กและบางกว่า | ขนาดใหญ่กว่าฟันน้ำนม ราคาฟันแพงและมีความแข็งแรงมาก |
| สีฟัน | สีขาวหรือคล้ายกับน้ำแข็งเคลือบฟันบางกว่า | สีของฟันแท้จะขาวขึ้นเคลือบโดยทั่วไปจะทนต่อการใช้งาน ความเหนียวและความทนทาน |
| จำนวนฟัน | มีจำนวนฟันหมวด 20 ชิ้น และจะขึ้นครบเมื่อเด็กมีอายุ 2-3 ปี | มีจำนวนฟันหมวด 32 ชิ้น ฟันแท้จะขึ้นเมื่อผู้ใช้ฟันเริ่มใช้วิธีรุ่นตอนเด็ก หรืออายุ 17-21 ปี |
ความสำคัญของการดูแลฟันลูกรักให้เรียงตัวสวยเป็นระเบียบ
การดูแลให้ฟันลูกเรียงตัวสวยเป็นระเบียบตั้งแต่ฟันแท้เริ่มขึ้น มีความสำคัญหลายประการ ไม่เพียงแต่ช่วยในการพัฒนาสุขภาพช่องปาก แต่ยังส่งผลดีต่อพัฒนาการในด้านอื่นๆ ของลูก ดังนี้
1. ช่วยในเรื่องการบดเคี้ยว
ฟันที่เรียงตัวถูกตำแหน่ง ช่วยให้เด็กสามารถบดเคี้ยวอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยให้ย่อยและดูดซึมสารอาหารได้ครบถ้วน ซึ่งส่งผลดีต่อการเจริญเติบโตของเด็ก
2. ส่งผลดีต่อการออกเสียงและการพูด
การเรียงตัวของฟัน เป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลต่อการออกเสียงของเด็กโดยตรง หากมีปัญหาฟันซ้อน ฟันเก หรือฟันห่าง อาจทำให้การพูดของเด็กไม่ชัดเจน และมีปัญหากับการออกเสียงบางคำได้ ซึ่งจะส่งผลต่อพัฒนาการด้านการสื่อสารและความมั่นใจในการพูดโดยตรง
3. ลดความเสี่ยงของฟันผุและโรคเหงือก
เมื่อฟันเรียงตัวถูกต้อง ไม่ซ้อน ไม่เก การทำความสะอาดฟันก็จะเป็นเรื่องง่ายขึ้น ช่วยขจัดคราบจุลินทรีย์และเศษอาหารที่ติดตามซอกฟันได้อย่างหมดจด ลดความเสี่ยงในการเกิดฟันผุ กลิ่นปาก และโรคเหงือก
4. ปรับบุคลิกภาพและความมั่นใจ
การมีฟันที่ขาวสะอาด เรียงสวยเป็นระเบียบ จะช่วยส่งเสริมให้ลูกมีรอยยิ้มที่มั่นใจและสวยงาม ส่งผลดีต่อบุคลิกภาพและความมั่นใจ นำไปสู่ความกล้าแสดงออกในอนาคต
5. ป้องกันการนอนอ้าปาก หุบปากไม่สนิท
พ่อแม่หลายคนอาจไม่ทราบว่าการนอนอ้าปากหรือหุบปากไม่สนิท เป็นสาเหตุหนึ่งของฟันผุและปัญหาช่องปากอื่น ๆ เนื่องจากทำให้ปากแห้ง เพิ่มความเสี่ยงการหายใจทางปาก ก่อให้เกิดการสะสมของแบคทีเรียในช่องปาก ส่งผลให้เคลือบฟันถูกทำลาย และเกิดฟันผุได้ง่ายขึ้น
วิธีดูแลฟันลูกให้สวยตั้งแต่ Day One
อยากให้ลูกรักมีฟันที่ขาวสะอาด เรียงตัวสวยเป็นระเบียบ ไม่จำเป็นต้องรอฟันแท้ขึ้น สามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรก ด้วยการสร้างนิสัยการดูแลฟันอย่างถูกวิธี เพื่อให้ลูกมีสุขอนามัยช่องปากที่ดีอย่างยั่งยืน
เริ่มแปรงฟันให้ลูกตั้งแต่ฟันน้ำนมซี่แรกเริ่มขึ้น โดยใช้แปรงขนนุ่มและยาสีฟันที่เหมาะสมกับวัย เมื่อเด็กโตพอที่จะช่วยเหลือตัวเองได้ ให้สอนการแปรงฟันอย่างถูกวิธีและการใช้ไหมขัดฟันเพื่อการดูแลช่องปากอย่างล้ำลึก
สอนให้ลูกเข้าใจว่าฟันมีบทบาทสำคัญในการพูด การเคี้ยวอาหาร และการดูแลช่องปากที่ดีจะช่วยให้ลูกมีสุขภาพฟันที่แข็งแรงในอนาคต และอธิบายว่าฟันผุหรือปัญหาช่องปากอื่น ๆ จะส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง
ส่งเสริมให้ลูกมีนิสัยการดูแลฟันที่ดีตั้งแต่เด็ก เช่น การหลีกเลี่ยงขนมที่ทำให้ฟันผุ หรือการดื่มน้ำเปล่าแทนน้ำอัดลมหรือเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล และเลือกรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมสูง ช่วยบำรุงฟันให้แข็งแรง
พาลูกไปพบทันตแพทย์ทุก 6 เดือน เพื่อตรวจสุขภาพช่องปากและรับคำแนะนำที่ถูกต้องในการดูแลฟัน หากตรวจพบปัญหาฟันผุหรือโรคเหงือกในระยะแรก จะช่วยให้สามารถรักษาได้ทันเวลา
พบทันตแพทย์ทันทีหากสังเกตการเรียงตัวของฟันผิดปกติ เพื่อรับคำปรึกษาและพิจารณาการจัดฟันใสสำหรับเด็กตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อปรับตำแหน่งฟันให้ถูกต้องและป้องกันปัญหาที่อาจซับซ้อนในอนาคต
ดูแลฟันลูกรักให้เรียงตัวสวย อยู่ถูกตำแหน่งตั้งแต่เด็ก พร้อมปลูกฝังนิสัยการดูแลช่องปากที่ดี ด้วยทันตกรรมจัดฟันใสสำหรับเด็กโดย MITI Dental ให้คำปรึกษาและรักษาโดยทันตแพทย์ ในบรรยากาศสบาย ๆ ท่ามกลางธรรมชาติ สร้างประสบการณ์การทำฟันที่ผ่อนคลายให้ลูกน้อยตั้งแต่วัยเยาว์
MITI Dental ตั้งอยู่กลางซอยอารีรักษ์ สุขุมวิท 50 ห่างจาก BTS อ่อนนุชเพียง 500 เมตร พร้อมที่จอดรถกว่า 10 คัน เปิดบริการทุกวัน สอบถามราคาการจัดฟันใสสำหรับเด็ก รวมทั้งข้อมูลอื่น ๆ เกี่ยวกับการดูแลช่องปาก และนัดหมายเข้าพบทันตแพทย์ได้ที่เบอร์ 092-288-8061 หรือ LINE Official Account : @mitiwellness
ข้อมูลอ้างอิง:
Teeth development in children. สืบค้นเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2568 จาก https://www.betterhealth.vic.gov.au/health/conditionsandtreatments/teeth-development-in-children
