จัดฟันแบบใส VS จัดฟันแบบเหล็ก: เลือกแบบไหนให้เหมาะกับคุณ

การตัดสินใจจัดฟัน เป็นการลงทุนที่สำคัญทั้งในด้านเวลาและค่าใช้จ่าย เพื่อผลลัพธ์คือรอยยิ้มที่สวยงามและสุขภาพช่องปากที่ดีในระยะยาว เรามาเปรียบเทียบจัดฟันใสกับจัดฟันเหล็กให้เข้าใจง่าย ๆ เพื่อช่วยคุณตัดสินใจว่าวิธีไหนเหมาะกับคุณมากที่สุด

จัดฟันใสกับจัดฟันเหล็กแตกต่างกันในด้านประสิทธิภาพ ผลกระทบต่อการใช้ชีวิต ความสวยงาม และราคา

1. จัดฟันแบบเหล็ก (Traditional Braces)

จัดฟันแบบเหล็กเป็นวิธีการดั้งเดิม ประกอบด้วยเหล็กและลวดที่ติดแน่นกับฟัน ใช้แรงดึงจากลวดเพื่อเคลื่อนฟันให้เข้าที่ ซึ่งแม้จะทำให้เห็นเครื่องมือจัดฟันชัด แต่ยังคงเป็นวิธีที่ได้ผลดีเยี่ยมสำหรับหลายกรณี

ประสิทธิภาพในการรักษา

การจัดฟันแบบเหล็กสามารถแก้ไขปัญหาฟันได้หลากหลาย รวมถึงกรณีซับซ้อนมาก เช่น ฟันซ้อนรุนแรง ฟันที่หมุนผิดตำแหน่ง หรือปัญหาการสบฟันที่รุนแรง โดยใช้เวลารักษาเฉลี่ย 18 เดือน - 3 ปี ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของแต่ละกรณี 

ทั้งนี้ ผลลัพธ์การรักษาขึ้นอยู่กับความชำนาญของทันตแพทย์เป็นสำคัญ เนื่องจากการปรับเหล็กแต่ละครั้งต้องอาศัยทักษะและประสบการณ์เฉพาะทาง นอกจากนี้ ผู้รับการรักษาต้องพบทันตแพทย์ค่อนข้างบ่อย โดยเฉลี่ยทุก ๆ 1 เดือนเพื่อปรับอุปกรณ์จัดฟันและตรวจสอบความคืบหน้าของการรักษา

ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

การจัดฟันแบบเหล็กอาจมีผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันบ้าง ดังนี้

  • มีข้อจำกัดเรื่องการรับประทานอาหาร ต้องหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง เหนียว หรือกรอบ เช่น ถั่ว ข้าวโพดคั่ว ลูกอม หรืออาหารที่ต้องกัดแรง ๆ เพราะอาจทำให้เหล็กจัดฟันหลุดหรือเสียหาย

  • การทำความสะอาดทำได้ยาก ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษทำความสะอาดซอกเหล็ก เช่น แปรงซอกฟัน หรือไหมขัดฟันพิเศษ ซึ่งใช้เวลามากกว่าปกติ

  • อัตราการเข้าพบแพทย์บ่อย ต้องพบทันตแพทย์ทุก 1 เดือน เพื่อปรับเครื่องมือ ซึ่งอาจกระทบต่อตารางชีวิตประจำวัน

  • อาจเกิดแผลหรือการระคายเคืองในช่องปากได้ โดยเฉพาะในช่วงแรกของการจัดฟัน หรือหลังการปรับเหล็กแต่ละครั้ง

ด้านความสวยงามและความมั่นใจ

การจัดฟันแบบเหล็กอาจมีผลด้านความสวยงามที่ส่งผลต่อความมั่นใจของผู้รับการรักษา ดังนี้

  • มองเห็นชัดเจนขณะยิ้มหรือพูดคุย ซึ่งอาจมีผลต่อบุคลิกภาพ โดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่

  • ยางจัดฟันมีให้เลือกหลายสี สามารถเพิ่มสีสันได้ตามชอบ ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่น

  • อาจส่งผลต่อความมั่นใจในการเข้าสังคม โดยเฉพาะในวัยผู้ใหญ่หรือผู้ที่ต้องติดต่อกับผู้คนเป็นประจำ

  • อาจมีผลต่อการพูด โดยเฉพาะในช่วงแรกที่อาจมีการพูดไม่ชัด เนื่องจากต้องปรับตัวกับเครื่องมือในปาก

ด้านค่าใช้จ่าย

การจัดฟันแบบเหล็กมักมีราคาถูกกว่าจัดฟันแบบใส โดยทั่วไปราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 35,000-80,000 บาท ขึ้นอยู่กับคลินิกและความซับซ้อนของการรักษา อย่างไรก็ตาม ผู้รับการรักษาควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา เช่น ค่าซ่อมแซมเครื่องมือที่แตกหัก เมื่อเหล็กหลุดหรือลวดขาด

จัดฟันแบบใส Invisalign® มีข้อดีด้านความสวยงามและความสะดวกมากกว่าการจัดฟันแบบเหล็ก

2. จัดฟันแบบใส Invisalign®

จัดฟันแบบใส Invisalign® เป็นนวัตกรรมการจัดฟันสมัยใหม่ที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ด้วยชุดอุปกรณ์แบบใสที่ถอดเปลี่ยนได้และแทบมองไม่เห็นเมื่อสวมใส่ ผลิตจากวัสดุที่ออกแบบเฉพาะสำหรับการเคลื่อนฟันอย่างแม่นยำและสบาย พร้อมใช้เทคโนโลยีวางแผนการรักษาล่วงหน้าอย่างละเอียดและจำลองผลลัพธ์ให้เห็นก่อนเริ่มการรักษา ทำให้ทั้งคนไข้และทันตแพทย์เห็นภาพรอยยิ้มที่จะได้ในอนาคตอย่างชัดเจน

ประสิทธิภาพในการรักษา

จัดฟันแบบใส Invisalign® สามารถแก้ไขปัญหาฟันได้ครอบคลุมเกือบทุกกรณี ทั้งฟันซ้อน ฟันห่าง และฟันสบลึก มีความแม่นยำด้วยการวางแผนการรักษาจากเทคโนโลยีขั้นสูง ทำให้สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์และระยะเวลาการรักษาได้ชัดเจนกว่า 

โดยมีการใช้เทคโนโลยี 3D มาวางแผนการรักษาล่วงหน้า ร่วมกับอุปกรณ์จัดฟันใสที่ผลิตจากวัสดุ SmartTrack™ ช่วยให้เคลื่อนฟันได้อย่างแม่นยำ ทำให้ใช้เวลารักษาเฉลี่ยเพียง 12-18 เดือน ซึ่งโดยทั่วไปถือว่าเร็วกว่าแบบเหล็ก และอาจใช้เวลารักษาเพียง 9-12 เดือนสำหรับกรณีที่ไม่ซับซ้อนมาก หรือเป็นการจัดฟันรอบสอง 

ผลกระทบต่อชีวิตประจำวัน

เนื่องจากไม่ต้องติดเครื่องมือที่เป็นเหล็กในช่องปาก ทำให้การจัดฟันใสส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันน้อยมาก เช่น

  • ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอาหาร เพราะถอดออกเวลารับประทานได้ ทำให้สามารถรับประทานอาหารโปรดได้ตามปกติ

  • ทำความสะอาดง่าย เพียงถอดออกมาล้างทำความสะอาดด้วยแปรงสีฟันและน้ำอุ่น ไม่ต้องใช้อุปกรณ์พิเศษ

  • พบทันตแพทย์ทุก 8-12 สัปดาห์ ซึ่งห่างกว่าการจัดฟันแบบเหล็ก จึงช่วยประหยัดเวลาและลดความถี่ในการเดินทาง

  • ไม่กระทบไลฟ์สไตล์ สามารถเล่นกีฬา เล่นดนตรีได้ตามปกติ โดยเฉพาะกีฬาที่มีการปะทะหรือเครื่องดนตรีประเภทเป่า

  • สุขอนามัยช่องปากดีกว่า เพราะถอดทำความสะอาดฟันได้ตามปกติ ลดความเสี่ยงของการเกิดคราบพลัคและฟันผุระหว่างการจัดฟัน

ด้านความสวยงามและความมั่นใจ

การจัดฟันใสด้วยเครื่องมือ Invisalign® มาพร้อมข้อได้เปรียบด้านความสวยงามและส่งผลต่อความมั่นใจของผู้รับการรักษา ดังนี้

  • เกือบมองไม่เห็นแม้ในระยะใกล้ เนื่องจากผลิตจากวัสดุใสพิเศษที่มีความโปร่งแสง

  • ไม่กระทบความมั่นใจในการพูดคุย ยิ้ม หรือถ่ายรูป ทำให้สามารถใช้ชีวิตสังคมได้อย่างมั่นใจระหว่างการจัดฟัน

  • เหมาะกับผู้ที่ต้องพบปะผู้คน ประชุม หรือออกงานสังคม โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานในสายอาชีพที่ต้องพบปะลูกค้า

  • ไม่ส่งผลต่อภาพลักษณ์ทางวิชาชีพ เป็นที่นิยมในกลุ่มผู้ใหญ่วัยทำงานที่ต้องการจัดฟันโดยไม่กระทบภาพลักษณ์

ด้านค่าใช้จ่าย

จัดฟันแบบใส Invisalign® มีราคาเริ่มต้นประมาณ 100,000-190,000 บาท เนื่องจากใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยและวัสดุคุณภาพสูง โดยราคาจะแตกต่างกันตามความซับซ้อนของแต่ละกรณีและจำนวนชุดอุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ ข้อดีคือค่าใช้จ่ายมักรวมทุกอย่างไว้เบ็ดเสร็จแล้ว นอกจากนี้ ที่ MITI Dental ยังมีแพ็กเกจจัดฟันใส ด้วยราคาที่โปร่งใส ช่วยให้ผู้ป่วยสามารถวางแผนค่าใช้จ่ายล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

จัดฟันแบบใสกับแบบเหล็ก แบบไหนดีกว่า ?

จัดฟันแบบเหล็กโดดเด่นด้วยประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาฟันที่ซับซ้อน ราคาที่ประหยัดกว่า และความแข็งแรงทนทาน

ในขณะที่จัดฟันแบบใสมีจุดเด่นเรื่องความสวยงามเพราะแทบมองไม่เห็น ความสะดวกในการดูแลรักษาความสะอาด ไม่มีข้อจำกัดเรื่องอาหาร และใช้เวลารักษาที่สั้นกว่า จึงเหมาะกับผู้ใหญ่วัยทำงานที่ต้องพบปะผู้คน หรือผู้ที่มีไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉง 

การจัดฟันใสกับจัดฟันเหล็กนั้นต่างกันในหลาย ๆ ด้าน แต่ทั้งสองวิธีล้วนให้ผลลัพธ์ที่ดีเมื่ออยู่ในความดูแลของทันตแพทย์ ดังนั้น การเลือกวิธีที่เหมาะสมควรพิจารณาจากลักษณะปัญหาฟัน งบประมาณ ไลฟ์สไตล์ และความสำคัญของความสวยงามระหว่างการรักษา

ทำไม MITI Dental จึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการจัดฟันใส Invisalign®

เมื่อคุณตัดสินใจเลือกจัดฟันใส Invisalign® การเลือกคลินิกที่มีความเชี่ยวชาญเป็นสิ่งสำคัญที่จะส่งผลโดยตรงต่อประสิทธิภาพการรักษา MITI Dental โดดเด่นด้วยคุณสมบัติดังนี้

ทีมทันตแพทย์ผู้ชำนาญการระดับสูง 

MITI Dental เป็น Invisalign® Diamond Plus Provider ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดที่มอบให้ Top 1% ของ Invisalign® Provider ทั้งหมด และยังมีทีมทันตแพทย์ที่ได้รับการรับรองจาก American Board of Orthodontics ซึ่งเป็นมาตรฐานระดับนานาชาติสำหรับทันตแพทย์จัดฟัน มีประสบการณ์กว่า 30 ปี ดูแลคนไข้จัดฟันมาแล้วกว่า 5,000 ราย ทำให้สามารถรับมือกับการจัดฟันกรณีที่ซับซ้อนได้อย่างมั่นใจ นอกจากนี้ทันตแพทย์ของเรายังได้รับการอบรมและอัปเดตเทคนิคล่าสุดอยู่เสมอ เพื่อนำเทคโนโลยีทันสมัยมาใช้ในการรักษาอย่างมีประสิทธิภาพ

คลินิกและเทคโนโลยีชั้นสูง

MITI Dental มีคลินิกที่ออกแบบให้ผ่อนคลาย เชื่อมต่อกับธรรมชาติ สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและลดความกังวลระหว่างการรักษา ด้วยอาคารแบบ Stand-alone เพื่อความเป็นส่วนตัว และเรายังมีเครื่องมือการแพทย์คุณภาพสูงที่นำเข้าจากสหรัฐฯ และเยอรมัน รวมถึงเครื่องสแกน 3D ที่ให้ความแม่นยำสูง พร้อมระบบความปลอดภัยและมาตรฐานการรักษาระดับสากล โดยยึดหลักการปลอดเชื้อและความสะอาดตามมาตรฐานการแพทย์


เริ่มต้นรอยยิ้มใหม่ด้วยการจัดฟันใสแบบ Invisalign® ที่ MITI Dental ซึ่งเป็นคลินิกที่ได้รางวัล Invisalign® Diamond Plus Provider และเราพร้อมรองรับลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ (English Fluent Speaking Dental Clinic) รวมถึงมีแพ็กเกจจัดฟันใส ด้วยราคาโปร่งใส ไม่มีค่าใช้จ่ายแฝง

คลินิกของเราตั้งอยู่กลางซอยอารีรักษ์ สุขุมวิท 50 ห่างจาก BTS อ่อนนุชเพียง 500 เมตร เปิดบริการทุกวัน สนใจนัดหมายรับคำปรึกษาฟรีเรื่องจัดฟันใสได้แล้ววันนี้ที่เบอร์ 092-288-8061 หรือ LINE Official Account : @mitiwellness


ข้อมูลอ้างอิง: 

Next
Next

การฟอกสีฟันคืออะไร แบบไหนดีที่สุดสำหรับคุณ ?